หลักการเขียน Essay
ด้วยเหตุที่เรียงความมีความยาวและความซับซ้อนมากกว่าย่อหน้าดังนั้นจึงจำเป็นที่ผู้เขียนต้องวางแผนการเขียนให้รัดกุม จัดแบ่งย่อหน้าให้ชัดเจนก่อนเริ่มลงมือเขียน ในการเขียนเรียงความแต่ละครั้งนั้นผู้เขียนควรเตรียมตัวในการเขียนดังนี้ // 1. กำหนดหัวข้อเรื่องที่จะเขียน ( topic ) แรกสุดผู้เขียนต้องคิดเกี่ยงกับหัวข้อที่จะเขียนก่อนเสมอ โดยหัวข้อที่ผู้เขียนจะเขียนนั้นต้องเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับผู้อ่าน 2. ค้นคว้าเพิ่มเติม การค้นคว้าเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเขียนทุกชนิดไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง สังคม เศรษฐกิจ การศึกษา กีฬา เป็นต้น 3. ศึกษาลักษณะในเขียนเรียงความที่ถูกต้อง และภาษาที่ใช้ในการเขียนเรียงความต้องสละสลวย กลมกลืน ตามหลักการเขียนคือต้องการ – เป็นเอกภาพ( unity )คือเรื่องราวที่กำลังเขียนอยู่นั้นต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน – มีการลำดับเรื่องที่เหมาะสม ( logical order ) การเรียงประโยคต่างๆ ในแต่ละย่อหน้าเป็นไปตามลำดับเหตุการณ์และความสำคัญสมเหตุสมผล – มีความต่อเนื่องของเนื้อหา ( coherence ) ใช้คำเชื่อมที่เหมาะสมและกลมกลืน 4. วางโครงเรื่องที่เขียนเหมาะสม ( outline ) ผู้เขียนต้องวางโครงเรื่องและส่วนประกอบต่างๆ พร้อมจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลและย่อหน้าให้ชัดเจนเพื่อการเขียนจะได้ไม่ซ้ำซ้อน โดยโครงเรื่องหลักๆ ต้องประกอบด้วย 1) คำนำ 2) เนื้อเรื่อง
ส่วนประกอบของเรียงความ
เรียงความแต่ละเรื่องจะต้องมีส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วนด้วยกันคือคือ บทนำ ( An introductory paragraph) บทนำเป็นบทเริ่มเรื่อง เป็นการเขียนนำให้ผู้อ่าน เกิดความสนใจในเรื่องนั้นๆ และเป็นบทที่นำผู้อ่านไปสู่เนื้อเรื่องด้วย การเขียนบทนำอาจขึ้นต้นด้วยข้อคิด คำคม ภาษิต ข่าวสารบ้านหรือเหตุการณ์สำคัญๆต่างๆก็ได้ทั้งสิ้นแต่ต้องใช้ภาษาที่กระชับสละสลวย ดังนั้นเมื่อกล่าวโดยรวมบทนำจึงประกอบด้วยสองส่วนคือ 1)การกล่าวทั่วๆไป ( general statements ) เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน และ 2 ) การกล่าวระบุหัวใจสำคัญของเรื่อง ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นประโยคหลักหรือเป็น main idea ของย่อหน้า เพราะเป็นส่วนที่ควบคุมแนวคิดหลักๆ ของแต่ละย่อหน้า บทนำของเรียงความแต่ละเรื่องควรมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อเป็นการแนะนำหัวข้อเรื่องของเรียงความ 2) เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเรียงความ 3) เพื่อแสดงแผนงานโดยรวมของเรียงความ 4) เพื่อเป็นกระตุ้นความสนใจของผู้อ่านเรียงความ 2. เนื้อเรื่อง ( A body ) เนื้อเรื่องคือการเขียนสาระสำคัญของเรื่องหรือเรียงความ ดังนั้น เนื้อเรื่องจึงถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเรียงความ เพราะถ้าขาดเนื้อเรื่องแล้วสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อย่อมไม่สำเร็จผลตามที่ต้องการแน่นอน เนื้อเรื่องของเรียงความอาจจะประกอบด้วยหนึ่งย่อหน้าหรือหลายย่อหน้าก็ได้แต่ละย่อหน้าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันตลอดในส่วนของเนื้อเรื่องผู้เขียนสามารถอุทาหรณ์
การเขียนย่อหน้า
เรียงความแต่ละเรื่องนั้นจะแบ่งออกเป็นหน้า ( paragraph ) ซึ่งผู้เขียนต้องวางโครงร่างไว้ในใจแล้วว่าในแต่ละย่อหน้าจะเขียนเกี่ยวกับอะไรย่อหน้าที่ดีจะกล่าวถึงหัวข้อ ( topic ) เพียงหัวข้อเดียว ซึ่งหัวข้อ (topic) ส่วนใหญ่จะอยู่ในประโยคแรกย่อหน้า ( paragraph ) และในแต่ละย่อหน้าก็ต้องความเป็นเอกภาพ ( Unity ) มีความต่อเนื่องของข้อความและภาษาที่ใช้ ( Coherence ) มีประโยคใจความหลักหรือประโยค Main Idea หนึ่งประโยคอยู่ด้วยเสมอ// ส่วนประกอบที่สำคัญๆของการเขียนย่อหน้า ( paragraph ) คือ 1.ประโยคหลัก หรือประโยคใจความ ( topic sentence) ทุกๆย่อหน้าจะต้องมีประโยคหลักหรือ topic sentence อยู่ด้วยเสมอซึ่งผู้เขียนเรียงความจะใช้ประโยคหลักสื่อสารกับผู้อ่าน ประโยคที่เหลือไม่ว่าจะเป็นการโต้แย้ง ( arguments การอธิบายด้วยภาพประกอบ ( illustrations ) การยกตัวอย่างประกอบ ( examples ) ประโยคเหล่านี้ต้องสนับสนุนประโยคหลักหรือประโยค topic sentence ประโยคหลักหรือประโยค topic
การเขียนเรียงความ
การเขียนเรียงความ เป็นการนำความคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่ผู้เขียนสนใจนำมาเรียบเรียงอย่างชัดเจน ให้น่าสนใจโดยอาศัยข้อเท็จจริง ระกอบความคิดเห็นของผู้เขียนให้ผู้อ่านได้เข้าใจ ตามที่ผู้เขียนต้องการ เรียงความหรือ Essay เป็นงานเขียนประเภทหนึ่งที่ผู้เขียนได้เสนอความคิด ความรู้สึกตลอดถึงความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ออกมาให้ผู้อื่นทราบโดยการเขียนเป็นเรื่องราวและใช้ถ้อยคำภาษาที่สื่อความหมายให้ผู้อ่านเข้าใจตรงกับความคิดและอารมณ์ของผู้เขียนเอง เรียงความหรือ Essay เป็นงานเขียนที่ประกอบด้วยหลายๆ ย่อหน้าหรือหลายๆ paragraphs เป็นงานเขียนที่เขียนเกี่ยวกับหัวข้อเพียงหัวข้อเดียว (one topic) เหมือนกับหนึ่งย่อหน้า แต่ด้วยเหตุที่หัวข้อหรือ topic นั้นยาวและซับซ้อนเกินกว่าที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ในหนึ่งย่อหน้าหรือหนึ่ง paragraph ดังนั้นผู้เขียนเรียงความจึงต้องแบ่งหัวข้อเรื่องออกเป็นหลายๆย่อหน้าหรือหลายๆ paragraph ซึ่งในแต่ละย่อหน้าก็จะมีประโยคใจความหรือประโยคหลักอยู่เพียงประโยคเดียว (one major point) หมายความว่าแต่ละย่อหน้าจะมี main idea เดียวเท่านั้น ที่เหลือก็จะเป็นประโยคสนับสนุนประโยคหลักหรือประโยค main idea สิ่งที่ผู้เขียนเรียงความต้องทำคือการผู้ร้อยเนื้อความของแต่ละย่อหน้าหรือ paragraph เข้าด้วยกันโดยการเพิ่มบทนำและบทสรุปเข้ามาด้วย // การเขียนเรียงความถือว่าล่ายกว่าการเขียนย่อหน้า ส่วนที่ยากของการเขียนเรียงความเห็นจะเป็นความยาวที่เรียงความเรื่องหนึ่งควรจะมีเท่านั้น นั้นแสดงว่าถ้าคุณสามารถเขียนย่อหน้าหรือ paragraph ได้ดีคุณก็ย่อมเขียนเรียงความได้ดีเช่นกัน เพราะย่อหน้าหรือ paragraph คือส่วนประกอบของเรียงความหรือ essay นั้นเอง หมายความว่าเมื่อนำย่อหน้าต่างๆ มารวมเข้าด้วยกันพร้อมกับเพิ่มบทนำและบทสรุปเข้าไปก็จะทำให้ย่อหน้าเหล่านั้นกลายเป็นเรียงความดีๆ นี่เอง
ที่มา : http://www.thaiessaywriting.com/?p=233
ที่มา : http://www.thaiessaywriting.com/?p=233
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น